[Review] The Foreigner – การเมือง-ก่อการร้าย หัวและหางของงูตัวเดียวกัน

“Quan” (เฉินหลง) ชาวจีนที่อาศัยอยู่ในอังกฤษ ต้องประสบเหตุสูญเสียลูกสาวจากเหตุวินาศกรรม เขาเชื่อว่านี่เป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายไอร์แลนด์ จึงเดินทางไปขอความช่วยเหลือสืบคดีจาก “Liam Hennessy” (Pierce Brosnan) มุขมนตรีไอร์แลนด์เหนือ แต่กลับได้รับการปฏิเสธ Quan จึงต้องรื้อฟื้นสกิลสายลับเพื่อจัดการชำระแค้นครั้งนี้ด้วยตัวเองอีกครั้ง

สำหรับคนที่อยากเห็น “เฉินหลง” ในมุมที่แตกต่างออกไป “The Foreigner” หนังเรื่องใหม่ของเขาก็พอจะตอบโจทย์ได้ระดับหนึ่ง เมื่อในเรื่องนี้เราได้เห็นเฉินหลงในลุคที่แก่ขึ้น ดราม่าขึ้น ลดความตลกลง แม้มันอาจไม่ใช่ครั้งแรกที่เฉินหลงพยายามโชว์ด้านดราม่าให้เราเห็น แต่ก็ไม่บ่อยเช่นกันที่เขาจะทำเช่นนี้ แถมก็ทำได้ดีในระดับหนึ่งด้วย จนอาจพอวางใจได้ว่าในอนาคตถ้าแกไม่ไหวแล้วจริงๆ ก็อาจพลิกไปเล่นสายดราม่าได้อย่างสบายๆ แม้เราจะไม่รู้ว่าอนาคตนั้นอีกเมื่อไหร่ เพราะดูเหมือนเฉินหลงก็ยังพึงพอใจกับการเป็น Action Star ของเขาอยู่

น่าเสียดายที่หนังโชว์อีกมุมของเฉินหลงแค่ครึ่งแรกเท่านั้น พอเข้าสู่ครึ่งหลังเฉินหลงก็กลับมาเป็นเฉินหลง จากคนแก่งกๆ งั่กๆ ที่สู้กับอีกฝ่ายด้วยความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมาในตอนแรก กลายเป็นหนุ่มขึ้น ว่องไวขึ้น แม้จะยังไม่เท่าเรื่องอื่นๆ ของเฉินหลงก็ตาม แต่ก็สามารถซัดกับหนุ่มๆ ในเรื่องได้สบาย และที่สำคัญคือสุดท้ายแล้วหนังก็ยังติดอยู่กับความเป็น Hero มากกว่าหนัง ทั้งที่ ตัวละคร “Quan” ของเฉินหลง ก็มีภูมิหลังที่ซับซ้อนจนสามารถนำมาขยี้ได้แล้วแท้ๆ แถมเนื้อหาหนังโดยรวมยังเอื้อด้วย แต่หนังก็เลือกที่จะฉายให้เห็นเฉพาะมุม Hero ของเขา สู้เพื่อลูก และอยู่เหนือปมความขัดแย้งทั้งปวง มันเลยทำให้ช่วงครึ่งหลังของ The Foreigner เส้นเรื่องของเฉินหลงกลายเป็นส่วนเกินและฉุดให้หนังไปไม่สุดอย่างน่าเสียดาย

ส่วนที่น่าสนใจของเรื่องจริงๆ กลับเป็นเส้นเรื่องของ “Liam Hennessy” ที่ตอนแรกนึกว่าจะใส่เข้ามาเพื่อเป็นตัวประกอบหวังผลทางการตลาดเฉินหลง vs. (อดีต) James Bond เฉยๆ แต่กลายเป็นว่า เป็นตัวละครที่ซับซ้อนและมีมิติมากทีเดียว แบบที่ตัวละคร Quan เป็นไม่ได้เพราะยังห่วงความเป็นเฉินหลงอยู่

“Liam Hennessy” คืออดีตผู้ก่อการร้ายกลุ่ม “UDI” (ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากกลุ่ม IRA ที่ต่อสู้เพื่อนำไอร์แลนด์เหนือออกจากสหราชอาณาจักร) ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งมุขมนตรีของไอร์แลนด์เหนือ (ประมาณนายกรัฐมนตรีของแคว้น) เขาเป็นตัวอย่างของคนที่เคยต่อสู้แบบใต้ดินมาก่อน และพยายามจะย้ายพื้นที่มาสู่บนดิน แต่ขณะเดียวกันก็ยังไม่ปล่อยมือจากใต้ดินเสียทีเดียว นั่นทำให้ในแง่หนึ่งเขาเป็นเหมือนตัวกลางที่คอยเจรจาระหว่างรัฐบาลสหราชอาณาจักรกับกลุ่มผู้ก่อการร้าย แต่อีกแง่หนึ่งเขาก็เป็นที่จงเกลียดจงชังจากทั้ง 2 ฝ่าย กลุ่ม UDI มองว่าเขาละทิ้งอุดมการณ์ไปเข้ากับศัตรู ขณะที่รัฐบาลก็มองเขาเป็นหอกข้างแคร่ที่คบกันเพียงเพื่อผลประโยชน์เท่านั้น

ชอบประโยคในเรื่องที่ว่า “การเมืองและการก่อการร้ายเป็นหัวและหางของงูตัวเดียวกัน” และมันจริงมากๆ ในเส้นเรื่องของ Liam ที่การก่อการร้ายถูกแปรสภาพเป็นเกมการเมืองระหว่างตัวเขา สมาชิกกลุ่ม UDI และรัฐบาลอังกฤษ เป้าหมายหรืออุดมการณ์ต่างๆ มีความสำคัญน้อยกว่าการต่อรองเพื่อรักษาผลประโยชน์และอำนาจของตัวเอง Liam กลายเป็นตัวละครที่ซับซ้อน แง่หนึ่งเราเอาใจช่วยให้เขาผ่านสถานการณ์นี้ไปได้ แต่อีกแง่หนึ่งเรารู้สึกความสีเทาของเขา จนอดคิดไม่ได้ว่ามันก็สมควรกับสิ่งที่เขากำลังทำอยู่

จริงๆ ทั้ง Liam และ Quan ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก พวกเขาเป็นคนที่พยายามหนีจากอดีต Liam อยากจะละทิ้งชีวิตผู้ก่อการร้ายในอดีตไปเป็นนักการเมืองเต็มตัว ขณะที่ Quan ก็พยายามฝังชีวิตอดีตนักรบในสงครามเวียดนามที่ถูกฝึกโดย CIA เอาไว้ พวกเขาพยายามเริ่มต้นใหม่ แต่ก็ไม่ได้เรื่องง่าย ทำให้พวกเขาที่แม้จะมีตำแหน่งมีสัญชาติแต่ก็ไม่ต่างชาติ The Foreigner คนต่างชาติที่ผ่านเข้ามา ไม่ใช่คนในประเทศนั้นอย่างสมบูรณ์

น่าเสียดายที่หนังไม่กล้ามอบความซับซ้อนให้กับ Quan ในขณะที่ Liam มีความสีเทา Quan กลายเป็นตัวละครที่แบ่งแยกขาว-ดำชัดเจน เพื่อยังคงรักษาภาพลักษณ์ Hero ในแบบเฉินหลงเอาไว้ ทำให้ The Foreigner แม้จะสนุก มีความน่าติดตาม แต่ก็ไปได้ไม่สุดเท่าที่ควร

จุรีพร โนนจุ่น
Latest posts by จุรีพร โนนจุ่น (see all)