[Review] The Dreamers – หนังในตำนานของ Eva Green

นักแสดงหลายคนเริ่มต้นจากการเล่นหนังที่ต้องโชว์เนื้อหนังมังสา “Eva Green” ก็คือหนึ่งในนั้น เธอเริ่มเป็นที่รู้จักจากหนังอินดี้เล็กๆ “The Dreamers” (2003) ที่กลายเป็นหนังในตำนาน เพราะเรื่องนี้เธอเปิด “หมดเปลือก” จริงๆ แบบที่ทำให้ฉากโป๊เปลือยของดาราหลายคนกลายเป็นเรื่องขำๆ ไปเลย และไม่เพียงแต่ Eva เท่านั้น นักแสดงชายในเรื่องอย่าง “Michael Pitt” ที่ปัจจุบันก็เป็นนักแสดงที่มีผลงานอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดของ Ghost in the Shell ก็เปิดหมดเช่นกัน จนอดคิดไม่ได้ว่า ผู้กำกับกล่อมนักแสดงยังไงให้ยอมเล่นแบบเปลืองตัวขนาดนี้

จริงๆ “The Dreamers” มีแผ่นขายในไทยนานแล้ว แต่จะเป็นเวอร์ชั่นแบบมีม่านหมอกศีลธรรมอยู่ เพิ่่งมีประมาณปีที่แล้วมั้ง ที่มีการทำแผ่นเวอร์ชั่น Uncut Uncen ออกมา (ชี้เป้า Lido) ซึ่งพอได้ดูเต็มๆ ก็สมคำร่ำลือจริงๆ จัดหนัก จัดเต็ม ถึงใจ ถึงอารมณ์กันเลยทีเดียว

กระนั้นก่อนที่จะถลำลึกไปกว่านี้ เหอะๆ ถอยออกมาดูภาพรวมของหนังดีกว่า จะได้ดูเป็นรีวิวหนังหน่อย “The Dreamers” กำกับโดย “Benardo Bertolucci” (The Last Emperor, Little Buddha) เล่าเรื่องราวของ “Matthew” (Michael Pitt) นักศึกษาชาวอเมริกาที่มาแลกเปลี่ยนยังฝรั่งเศส ช่วงปลายยุค 1960’s ที่นี่ Matthew ได้พบกับคู่แฝดชายหญิง “Theo” (Louis Garrel) กับ “Isabelle” (Eva Green) ความหลงใหลในภาพยนตร์และแนวคิดหัวขบถที่ทั้ง 3 มีเหมือนกัน ผูกพันทั้ง 3 เข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเลือกจะใช้เวลาร่วมกันในอพาร์ทเมนท์ของคู่แฝด

ที่เหลือก็เน้นไปที่ช่วงเวลาที่ทั้ง 3 คนอยู่ด้วยกัน ซึ่งก็มีทั้งเล่นเกมส์ทายชื่อหนัง ถกเถียงเรื่องศิลปะ และ “Sex” ซึ่งเราจะได้เห็นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของคู่แฝด ที่เหมือนจะเป็นมากกว่าแค่พี่น้อง (ก็พี่น้องที่นอนแก้ผ้าด้วยกันอะ) หรือความอยากเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ Matthew จนกลายเป็นปัญหาความสัมพันธ์ของทั้ง 3 คน

แต่โดยภาพรวม หนังเรื่องนี้เหมือนจะต้องการสะท้อนปนประชดประชัน “นักฝัน” ในยุคหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตอยู่กับความฝันมากกว่าความจริง ทั้งในเรื่องชีวิตส่วนตัวหรือในสังคม Theo กับ Isabelle เหมือนจะเป็นหัวขบถ ต่อต้านสงครามเวียดนาม ต่อต้านการควบคุมศิลปะ แต่ขณะเดียวกันทั้ง 2 ก็ดูจะปฏิเสธการรับรู้ข่าวสาร ไม่ดูโทรทัศน์ และมักมีปัญหากับคนที่มีความเห็นต่างๆ จนอดคิดไม่ได้ว่าแท้จริงแล้วพวกเขาเป็นพวกหัวก้าวหน้า หรือแค่คนที่อยากขบถต่อสังคมเพื่อให้ดูแตกต่างเท่านั้น

ความเป็นนักฝันของ Theo กับ Isabelle เด่นยิ่งขึ้นในชีวิตส่วนตัวของพวกเขาเอง พวกเขาดูจะพยายามก้าวผ่านกรอบวัฒนธรรม ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาที่แปลกประหลาดกว่าพี่น้องทั่วไป การเปิดเผยร่างกาย หรือนัวเนียกันโดยไม่เขินอาย ใฝ่ฝันกันว่าแค่พวกเขา ชีวิตก็เป็นสุขแล้ว แต่ขณะเดียวกันพวกเขาก็ไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง เกืบความสัมพันธ์เหล่านี้เป็นความลับจากพ่อแม่ Isabelle เองก็เคยบอกกับ Matthew ว่าถ้าพ่อแม่รู้ เธอคงฆ่าตัวตาย ซึ่งแสดงว่าแม้เธอจะมีความสุขกับความฝันนี้ แต่ก็ยังหวาดกลัวความจริงอยู่

บทบาทของ Matthew ในเรื่อง จึงเป็นเหมือนคนที่พยายามดึงให้ Theo กับ Isabelle ได้ตระหนักว่า “ความจริง” กับ “ความฝัน” นั้นแตกต่างกันอย่างไร

ตัวหนังค่อนข้างเล่าเรื่องเรียบๆ ฉายภาพชีวิตประจำวันของพวกเขา 3 คนไปเรื่อยๆ แทบไม่มีจุดพีคหรือไคลแมกซ์อะไรมากมาย ยิ่งมาเจอกับฉาก 18+ ที่โดดเด่นมาก ทำให้เนื้อเรื่องยิ่งจมหายไปอีก ลักษณะเดียวกับ “Lust, Caution” ของ “Ang Lee” ที่ฉาก 18+ โดดเด่นเกินหน้าเกินตา จนสุดท้ายจำอะไรเกี่ยวกับหนังแทบไม่ได้ นอกจากฉาก 18+

แต่ถ้าอยากดูฉากในตำนานของ Eva Green ก็คุ้มอยู่นะ

จุรีพร โนนจุ่น
Latest posts by จุรีพร โนนจุ่น (see all)