[Review] Paddington – รักหมีที่สุดในโลก

 

สำหรับคนที่อาจไม่คุ้นเคยกับ “Paddington” (อย่างเช่นผม) เมื่อเห็นหน้าเจ้าหมีตัวแรกทำให้อดนึกไม่ได้ที่จะนึกถึงหมี strongb>”Ted” แต่เอาเข้าจริงสิ่งทั้ง 2 เรื่องมีเหมือนกันก็คงแค่มีหมีตัวเล็กๆ น่ารัก เป็นตัวนำเหมือนกัน แต่อย่างอื่นแทบจะไปกันคนละทางเลยทีเดียว “Ted” คือหนังตลกสไตล์อเมริกัน ที่เน้นตลกร้าย สะใจวัยรุ่น และใช้มุขตลกที่สุ่มเสี่ยงกับศีลธรรมอยู่ไม่น้อย ขณะที่ “Paddington” เป็นหนังที่ตลกที่คงความเป็นผู้ดีแบบอังกฤษไว้แบบแท้ๆ เน้นตลกใสๆ อารมณ์ฟีลกู๊ด เน้นความตลกที่เกิดจากความไม่ตั้งใจของตัวละครมากกว่า ทำให้เหมาะเป็นหนังสำหรับครอบครัว และข้อแตกต่างที่สำคัญอีกอย่างก็คือ “Ted” คือตุ๊กตาหมี ขณะที่ “Paddington” คือหมีจริงๆ

ก่อนจะมาเป็นหนัง “Paddington” คือชื่อตัวละครหมีในนิยายเรื่อง “A Bear Called Paddington” แต่งโดย “Michael Bond” และตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1958 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากตุ๊กตา Teddy Bear สำหรับ Paddington นั้นเป็นหมีตัวผู้สุภาพนิสัยดี เกิดในเปรู เมื่อโตขึ้นคุณป้าของเขาได้ส่งเขามาที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่นี่เขาได้พบกับครอบครัว Brown ที่รับ Paddington มาอยู่ด้วยชั่วคราว แต่ก็เกิดเหตุการณ์จนกลายเป็นความรักความผูกพันระหว่าง Paddington กับครอบครัว Brown ซึ่งในเวอร์ชั่นหนัง เนื้อหาก็อิงจากหนังสือเป็นหลัก

เนื่องจากเป็นหนังที่หมีมาใช้ชีวิตร่วมกับคน คำถามแรกๆ ที่อาจสงสัยกันก็คือ มาอยู่ร่วมกันได้ไง ไม่รู้สึกแปลกๆ บ้างหรือ เพราะนี่คือหมีพูดได้ ไม่ใช่แค่ตุ๊กตาหมีเท่านั้น อย่างใน “Ted” ก็ยังพยายามใส่คำอธิบายให้ดูสมจริงหน่อยเข้าไปว่า เรื่องมันผ่านมานานจนคนเลิกตื่นเต้นกับการที่ตุ๊กตาหมีพูดได้แล้ว แต่ใน “Paddington” หนังไม่ได้อธิบายชัดเจนว่าทำไม คนในเมืองถึงได้รู้สึกปกติกับหมีในเมืองขนาดนั้น อันที่จริงหนังแทบจะไม่สนใจอธิบายเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะโลกของหนังเรื่องนี้ มองหมีแค่คนแปลกหน้าที่เข้ามาในเมืองเท่านั้น ไม่ได้มองว่าหมีคือสัตว์ที่มีสถานะต่างจากมนุษย์ ช่วงแรกๆ เราจะเกิดคำถามเต็มไปหมด แต่เมื่อผ่านไปสักพักเมื่อสามารถปรับตัวให้เข้ากับโลกของหนังได้ คำถามต่างๆ ก็พับเก็บไว้ แล้วสนุกสนานกับหมีที่น่ารักที่สุดในโลกตัวนี้ได้เต็มที่

งาน CG เรื่องนี้อยู่ในระดับดีงามมาก สร้างสรรค์หมี Paddington ได้ราวกับมีหมีแบบนี้อยู่จริงๆ ในเรื่องยังมีการเล่นกับน้ำค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะน้ำฝนหรือน้ำในห้องน้ำ ซึ่งเป็นการโชว์ศักยภาพของ CG ไปด้วย เพราะขนาดฉากหมีเปียกน้ำก็ทำออกมาได้เนียนทีเดียว ที่น่ารักไปกว่านั้นคือการใส่คาแรกเตอร์ความสุภาพ มีมารยาท และความปรารถนาดีต่อผู้อื่น ซึ่งบางครั้งก็ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายโดยไม่ตั้งใจ กลายเป็นสเน่ห์ประจำตัวหมีไปเลย ซึ่งจะว่าไปความตลกที่เกิดจากความไม่ตั้งใจนี่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์แบบอังกฤษเหมือนกัน

ท่ามกลางความน่ารักของเรื่องราว หากผมเป็นนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ หรือผู้ว่ากรุงลอนดอน (ลอนดอนมีผู้ว่าหรือเปล่านะ) ก็คงเลือก “Paddington” เป็นหนังของเมืองด้วย เพราะ Paddington ได้ช่วยส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ที่ดีของลอนดอนแบบไม่ต้องยัดเยียด ด้วยการโชว์ด้านเป็นมิตรของลอนดอนว่าเป็นเมืองที่พร้อมต้อนรับทุกคนไม่ว่าจะมาจากและแม้ว่าจะเป็นหมีด้วยก็ตาม ที่นี่แม้แต่กับหมีแปลกหน้าก็สามารถรู้สึกถึงความเป็นครอบครัวได้ 

ใครชอบลอนดอน ใครชอบหมีน่ารัก ใครชอบตลกแบบไม่เป็นพิษเป็นภัย “Paddington” คือหนังสำหรับคุณ

ความชอบส่วนตัว: 9/10

 

 

Previous article[Review] The Divergent Series: Insurgent – กลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง
Next article[Review] Fast & Furious 7 – Never Say Goodbye

จุรีพร โนนจุ่น
Latest posts by จุรีพร โนนจุ่น (see all)