วงการเพลงญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์และมีอะไรที่น่าประหลาดใจอยู่เสมอ มีทั้งวงที่สมาชิกโคตรเยอะอย่าง 46&48 Group วงที่แบ่งกลุ่มเต้นกลุ่มร้องอย่างชัดเจนอย่าง Exile วงที่เล่นตลกพอๆ กับร้องเพลงอย่างหลายวงใน Johnny ดังนั้น จะแปลกอะไรถ้าจะมีสักวงเลือกจะโปรโมตด้วยการปล่อยเพลงอย่างเดียว แต่ไม่โชว์หน้า ไม่เดินสาย ไม่เล่นคอนเลย ซึ่งชื่อของวงนั้นก็คือ “GReeeeN”
“GReeeeN” ก่อตั้งเมื่อปี 2007 โดยการรวมตัวกันของนักศึกษาทันตแพทย์ 4 คน ซึ่งด้วนสถานะอนาคตทันตแพทย์ พวกเขาจึงเลือกจะไม่เปิดเผยหน้าตาหรือโชว์ตัวที่ไหนเลย เพื่อไม่ให้กระทบกับงานหลักของตัวเอง และจนถึงตอนนี้เป็นระยะเวลา 10 ปีแล้ว ทั้งที่ออกเพลงมาอย่างต่อเนื่อง และมีเพลงดังมากมาย แต่ GReeeeN ก็ยังไม่คิดจะเปิดเผยหน้าตาสักที ส่วนหนึ่งก็เพราะที่นี่คือ “ญี่ปุ่น” ประเทศที่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวสูง ดังนั้น การขุดคุ้ยตัวตนจริงจึงไม่ค่อยมีมากนัก หรือถ้ามีก็เป็นแฟนๆ นั่นแหละที่ช่วยกันห้ามปรามกัน
เมื่อไม่เปิดเผยหน้าตา ไม่ออกรายการ ไม่เดินสาย ไม้ตายเดียวของวงก็คือ “เพลง” โดยเพลงของ GReeeeN นอกเหนือจะเพราะแล้ว ยังมีจุดเด่นสำคัญคือ “เนื้อหา” ที่ให้กำลังใจ มอบพลังบวกให้กับคนฟังค่อนข้างมาก ซึ่งจุดเด่นนี้เป็นประเด็นหลักที่ถูกนำเสนอใน “Kiseki: Sobito of That Day” หนังชีวประวัติวงเนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปีของวง
จริงๆ ประวัติวง GReeeeN มีเรื่องน่าสนใจมากมาย (หาอ่านได้ใน PANTIP) แค่เรื่องไม่เปิดเผยหน้าตาก็ถือว่าจุดน่าสนใจมากๆ แล้ว แต่ตัวหนังกลับเลือกเอกประเด็น “การอยากถูกยอมรับ” ขึ้นมาแทน นั่นทำให้ Kiseki: Sobito of That Day ห่างไกลจากการเป็นสารคดีประวัติวง แต่ดูเป็น “หนัง” มากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ต่อให้เราไม่เคยรู้จักหรือไม่เคยฟัง GReeeeN มาก่อนเราก็จะสนุกและซาบซึ้งไปกับหนังได้ไม่ยาก
ตัวเด่นของเรื่องจริงๆ ในหนัง ไม่ใช่สมาชิกวง GReeeeN แต่เป็น “จิน” (โทริ มัตสึซากะ) Producer ของวง และยังเป็นพี่ชายของ “ฮิเดะ” (มาซากิ สุดะ) หัวหน้าและคนแต่งเพลงหลักของวง หนังเลือกโฟกัสไปที่ครอบครัวของจินและฮิเดะ ซึ่งมีพ่อที่ค่อนข้างเข้มงวด ต้องการให้ลูกชายเติบโตเป็นหมอเหมือนกับเขา นั่นทำให้จินกลายเป็นลูกเลวในสายตาพ่อ เมื่อเขาเลือก “ดนตรี” เป็นเส้นทางหลักของชีวิต ในขณะที่พ่อมองดนตรีเป็นเรื่องไร้สาระ แค่งานอดิเรกชั่วคราว ไม่ได้มีคุณค่าในการช่วยชีวิตคนแบบอาชีพหมอ
Kiseki: Sobito of That Day จึงเป็นเหมือนบทพิสูจน์ของจินที่มีต่อพ่อว่า “ดนตรีก็มีคุณค่าเหมือนกันนะ” ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะวงของจินเองก็ลุ่มๆ ดอนๆ จนเมื่อฮิเดะก่อตั้งวง GReeeeN และขอให้พี่ชายเป็น Producer ให้ จึงถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตจินเหมือนกัน การทำให้เห็นว่าดนตรีไม่ไร้สาระ ไม่ใช่การที่เราได้ออกแผ่นดัง แต่คือการแสดงให้เห็นว่าดนตรีมีพลังในการเยียวยาโลกจริงๆ และเพลงของวง GReeeeN ก็เป็นเช่นนั้น ในหลายๆ ครั้งหมอก็รักษาได้แค่ภายนอก แต่เรื่องจิตใจ เพลงอาจมีบทบาทเยียวยาได้เช่นกัน
ในฐานะหนังครบรอบ 10 ปีของวง คิดว่า Kiseki: Sobito of That Day ประสบความสำเร็จนะ อย่างน้อยก็ดึงเราที่แทบไม่เคยฟังเพลง GReeeeN เลย ให้กลายเป็นชอบวงนี้ไปได้ แต่ถ้าใครที่อยากได้ประวัติวง GReeeeN อย่างละเอียด หรืออยากเห็นดราม่าชัดเจนเรื่องความขัดแย้งการเป็นทันตแพทย์กับนักร้อง หรืออยากเห็นหน้าจริงๆ ของ GReeeeN ก็อาจไม่ได้ดังหวังเท่าไหร่ เพราะหนังแทบไม่เน้นส่วนเหล่านี้เลย แต่ก็นั่นแหละ นี่เป็นหนังที่อิงจากประวัติวง ไม่ใช่สารคดีวงสักหน่อย