[Review] Hardcore Henry – เปิดประสบการณ์ใหม่หนัง Action พันธุ์โหด

ใครที่เป็นคอเกม คงพอคุ้นเคยกับแนวเกมที่เรียกว่า “FPS” ซึ่งยอมาจาก “First Person Shooting” โดยเกมลักษณะนี้จะนำเสนอภาพแบบมุมมองบุคคลที่ 1 หรือก็คือตัวเราเอง หน้าจอจะแทนสายตาเรา ตัวละครที่เราเล่นในเกมเห็นแค่ไหน เราก็จะเห็นแค่นั้น (แน่นอนเกมแบบนี้เราจะไม่สามารถเห็นหน้าตัวเองได้ ยกเว้นจะส่องกระจกในเกม) จุดเด่นของ FPS ก็คือสร้างความรู้สึกที่สมจริง เสมือนว่าเราอยู่ในเกมนั้นเอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะนำไปใช้ในเกมแนว Shooting และ Action เสียเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามจุดอ่อนของ FPS คืออาจไม่สามารถโชว์ฉาก Action ของตัวละครได้เต็มที่นัก อีกทั้งบางทียังทำให้เกิดการเวียนหัวขึ้นง่ายๆ

สำหรับในวงการหนังแล้ว การใช้ FPS ไม่เป็นที่นิยมนัก เพราะนอกจากจะทำให้เกิดการเวียนหัวขึ้นง่ายๆ แล้ว การจำกัดมุมมองให้เหลือเพียงมุมมองเดียว ยังทำให้การเล่าเรื่องทำได้แคบลงด้วย แต่กระนั้นเราก็อาจพบการใช้ FPS บ้างในฉาก Action ของหนังบางเรื่อง อาทิ The Amazing Spider-man ที่มีการนำ FPS มาใช้ในฉาก Spider-man ห้อยโหนไปตามตึกเช่นกัน แต่จะเป็นยังไงละ ถ้าเกิดจะมีหนังเรื่องหนึ่งที่อยากจะใช้ FPS ตลอดทั้งเรื่อง… นั่นคือโจทย์และความน่าสนใจของหนังลูกครึ่งรัสเซีย-อเมริกา ที่ชื่อว่า “Hardcore Henry”

“Hardcore Henry” ไม่ใช่หนังที่สร้างจากเกม แต่เป็นหนังที่เหมาะกับการนำไปทำเป็นเกมมาก และมันยังเป็นหนังที่น่าจะสานฝันของเหล่าเกมเมอร์ให้เป็นจริงขึ้นมาได้ หลังจากที่เจ็บมาเยอะกับหนังที่สร้างจากเกมทั้งหลายแหล่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของ FPS โดยเฉพาะบรรดาฉาก Action ต่างๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นการเตะต่อย การวิ่งปีนป่ายไปตามสถานที่ต่างๆ มีด ปืน ไปจนถึงพลังจิต รวมถึง easter eggs บางอย่างที่เป็นที่รู้กันของเหล่าเกมเมอร์ ก็ถูกนำมาใส่ไว้ในเรื่องนี้ แม้ส่วนตัวจะไม่ใช่คอเกมนัก แต่ก็เคยผ่านการเล่นเกม FPS มาบางเกม (หลักๆ คือ Bioshock) ซึ่งก็เพียงพอที่จะทำให้รู้สึกได้เลยว่าคนทำหนังเรื่องนี้ มีความเป็นเกมเมอร์มากแค่ไหน

Harcore Henry ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าตัวเอกต้องชื่อ “Henry” แต่เพราะมันเป็นหนังมุมมองบุคคลที่ 1 ทั้งเรื่องเราจึงไม่เห็นว่า Henry หน้าตาเป็นยังไง ก็ใครจะเห็นหน้าตัวเองได้ละถ้าไม่ส่องกระจก เราไม่รู้ประวัติของ Henry พอๆ กับการที่ Henry ก็ไม่รู้ประวัติของตัวเอง เขาตื่นขึ้นมาบนห้องแห่งหนึ่ง กับอาการความจำเสื่อม และร่างกายครึ่งคนครึ่งเครื่องจักรของเขา โดยมี “Estella” ภรรยาของเขาเป็นคนฟื้นชีพให้กับเขา แต่ไม่นานนักทั้ง Henry และ Estella ก็โดนไล่ล่าจาก “Akan” วายร้ายที่มีพลังจิต ซึ่งมีแผนจะสร้างกองทัพมนุษย์ทดลองแบบ Henry ขึ้นมา Estella โดนจับตัวไป เป็นจุดเริ่มของภารกิจให้ Henry ต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือภรรยาของเขา และจัดการ Akan ให้ได้ั

หนังดำเนินเรื่องคล้ายๆ เกม คือแบ่งเป็น Mission ให้เราผ่านไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไปเจอตัวบอสใหญ่ ซึ่งในแต่ละ Mission ต่างๆ ก็จะมีตัวละคร “Jimmy” ซึ่งเปรียบเสมือน NPC ในกม ที่คอยมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และบอกภารกิจที่เราต้องทำ แถมในบางครั้งก็มาช่วยเราสู้บ้างด้วย แถมการที่ Jimmy หน้าตาเหมือนกันหมด ต่างกันแค่ชุด ยิ่งให้ความรู้เหมือนเกมมากยิ่งขึ้น เพราะในเกมพวกตัวละคร NPC ส่วนใหญ่ก็หน้าตาเหมือนๆ กันทั้งนั้น

นอกเหนือจากฉาก Action ที่ใช้ประโยชน์จาก FPS ได้เต็มที่แล้ว การที่หนังเป็น FPS ยังส่งผลถึงแนวทางการเล่าเรื่องด้วย เพราะมันทำให้ความรู้เราเกี่ยวกับเรื่องราว ถูกจำกัดเหลือเพียงแค่ผ่านมุมมองของ Henry เท่านั้น เราไม่รู้เลยว่ารอบๆ เรา หรือตัวละครอื่นๆ กำลังเกิดอะไรขึ้นมา ถ้าพวกนั้นไม่ได้เข้ามาในสายตาเรา มันจะต่างจากหนังทั่วไป ที่จะเกิดภาวะคนดูรู้ดีกว่าตัวละคร เพราะเรามองผ่านสายตาบุคคลที่ 3 เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้อดีคือทำให้เราลุ้นกับเรื่องราวไป เหมือนได้ไขปริศนาไปเรื่อยๆ เก็บเอาจิ๊กซอว์ระหว่างทางมาต่อจนกลายเป็นภาพใหญ่ของเรื่องราวทั้งหมด แม้เนื้อเรื่องของ Hardcore Henry จะไม่ได้พิเศษอะไรมากมาย แต่พอใช้ FPS ในการเล่า มันก็ดูน่าค้นหาขึ้นมาทันที

อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ต้องขอเตือนไว้คือ หนังเรื่องนี้ไม่เหมาะกับ เด็ก สตรีมีครรภ์ และคนชรา รวมถึงคนที่มีอาการปวดศีรษะอยู่เป็นประจำ เพราะการที่หนังใช้มุมมองแบบ FPS ทำให้กล้องมีการขยับอยู่ตลอดเวลา ผงกหัวลงนิดเดียวกล้องก็ขยับแล้ว แล้วยิ่งหนังเรื่องนี้ตัดต่ออย่างรวดเร็วมาก (ถึงมากที่สุด) ทำให้มุมมองภาพยิ่งขยับอย่างรวดเร็วเข้าไปอีก มีพลิกซ้าย ตะแคงขวา กลับหัวกลับหางให้เห็นปล่อย ใครไม่ชินกับสไตล์ภาพแบบนี้ มีแววจะเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนขึ้นได้ ยังไม่ต้องนับรวมถึงความรุนแรงในเรื่องที่จัดเต็มสมชื่อ Hardcore มาก จนไม่น่าจะเหมาะกับคนที่กลัวเลือด หรือหวาดกลัวความรุนแรงเช่นกัน

Previous article[Criticism] Batman v Superman: Dawn of Justice – เข้าใจคนรัก ใส่ใจคนชัง (Spoil)
Next article[Review] The Huntsman: Winter’s War – สามแม่ไม่ช่วยอะไร

จุรีพร โนนจุ่น
Latest posts by จุรีพร โนนจุ่น (see all)